การทำเกษตรไม่ว่าจะแบบไหนล้วนใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น ไม่ใช่เพียงแค่เห็นว่ามีผืนดินมีดินแค่รดน้ำแล้วต้นไม้จะงอกมาให้ได้ ต้องอาศัยการปรับปรุงดิน วัสดุปรับปรุงดิน ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ ต้นพันธุ์ การวางระบบน้ำ (ถามว่าทำไมไม่รดเอง ทำได้ รับรองได้ว่าวันนึงไม่ต้องกินข้าว) เหล่านี้ไม่ได้ลอยมาจากอากาศ ทุกอย่างที่ว่ามาใช้เงิน ในการเริ่มต้นแทบทั้งสิ้น จะแก้ปัญหาอะไรก็คือเอาเงินมาก่อนนั่นแหละ
การปรับตัวไปปลูกอย่างอื่น เปรียบเสมือนเริ่มธุรกิจใหม่เลยทีเดียว หาเงินลงทุนใหม่ (ยากที่สุด) ต้องเริ่มหาตลาดใหม่ ดูความต้องการ เหมือนทำวิจัยตลาดดีๆ นี่เอง ไม่ใช่นึกจะปลูกอะไรก็ปลูกได้ทันที ตลาดไม่ต้องการที่ลงทุนไปก็เน่าเสียหายได้หมดเหมือนกัน ตลาดสินค้าเกษตรข้อด้อยที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือ เน่าเสีย สินค้าเกษตรเน่าเสียง่าย เป็นสินค้าความเสี่ยงสูง วันนั้นราคาเท่าไรก็ต้องขาย ขายไม่ได้ต้องทิ้ง ขาดทุนอย่างเดียว หรือจะมีใครบอกอีกว่า ก็แปรรูปสิ ครับ ค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าอุปกรณ์ หาตลาดใหม่อีก ไม่มีคนซื้อ แน่นอน ยังหนีไม่พ้นการเน่าเสีย แค่ยืดอายุออกไปได้เท่านั้น
การแก้ปัญหาชาวสวนยางหรือเกษตรกร มันแก้ไขได้ง่ายๆ ว่า "ทำไมไม่ไปปลูกสตรอเบอรี่แทนล่ะ" แต่เรื่องมันไม่ได้ง่ายเหมือนพูด ทำนอง "ขนมปังแพง ก็กินเค้กแทนสิ" ("Qu'ils mangent de la brioche", "Let them eat cake") หรือแบบไทยๆ "ก็ทำเกษตรพอเพียงสิ"
ลิงค์ถาวร